ชาวไทยมุสลิมหลายร้อยคนไปทำฮัจญ์โดยวีซ่าท่องเที่ยว ทางการซาอุฯ ประกาศจะใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”ต้องเป็นวีซ่าฮัจย์เท่านั้น”

เขียน/เรียบเรียงโดย อ.ซูโกร์ ดินอะ

กิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย

ช่วงนี้ ผู้เขียน ผู้นำศาสนา และเพื่อนบ้านร่วมชุมชน จะ ไปขอพร ให้ผู้ประสงค์จะไปทำฮัจญ์ ไม่ต่ำกว่า สองสามที่ต่อวัน บางวัน ชนกัน ก็อาจต้องแจ้งให้เขาทราบว่า ขอไปบ้านนี้ก่อน แล้วค่อยไปพบอีกเวลา อันเป็นวิถีวัฒนธรรมคนจะนะ บ้านผู้เขียนหรือชายแดนใต้ ซึ่งแต่ละคน ก็จะบอกว่า ไปกับแซะห์ (ผู้ประกอบการฮัจญ์)คนนั้นคนนี้ โดยส่วนใหญ่ก็จะไปกับคนรู้จัก ใกล้ ไม่ข้ามถิ่น ข้ามจังหวัด และก็จะถามว่าไปวันไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นเที่ยวบินแรก ที่บินตรงจากสนามบินหาดใหญ่ไปลงเมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดรีอาระเบีย แต่บางคนไปก่อนวันที่ 29 เมษายน 2568 ซึ่งผู้เขียนก็งง ว่า ไปได้ไม่หรือไม่อย่างไร ซึ่งผู้เขียนก็ลองสอบถามเพื่อนผู้ประกอบการฮัจญ์ สองคน เขาบอกว่า ปีนี้ มีจริงๆ ประมาณ 300 คน ซึ่งถ้าไปอย่างนี้ จะไปโดยไม่ใช้วิซ่า ฮัจญ์ ซึ่งก็มีความเสี่ยงในแง่ผิดกฎหมายของประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยทางการซาอุดีอาระบีย ประกาศจะใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และรุนแรงในปีนี้

ฮุจญาจ ต้องใช้วีซ่าฮัจย์ เท่านั้น!! ฝ่าฝืนมีโทษหนัก ปรับ 500,000 #ศูนย์ข่าวฮัจย์ไทย #hajj #กรมประชาสัมพันธ์ #สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศเตือน ประชาชนชาวไทยที่จะประกอบพิธีฮัจญ์ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายประเทศซาอุดีอาระเบีย

ภาพประกอบจาก Google

ซึ่งเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ประกาศเกี่ยวกับระเบียบล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับฮัจญ์ ก่อนฤดูกาล ฮัจญ์ 2025 จะมาถึง โดยได้รับการยืนยันแล้ว ว่าวันอาทิตย์ที่ 15 เชาวาล 1446 ซึ่งตรงกับวันที่ 13 เมษายน 2568 จะเป็นวันสุดท้ายที่ผู้แสวงบุญอุมเราะฮ์ จะเข้าสู่ราชอาณาจักร ฯ ได้ ในขณะที่วันสุดท้ายที่ผู้แสวงบุญอุมเราะฮ์ จากต่างชาติทั้งหมด จะต้องออกจากราชอาณาจักร คือ วันอังคารที่ 1 ซุลกอดะฮ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 29 เมษายน 2568

ผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างแดนที่ต้องการเข้ามักกะฮ์ จะต้องได้รับใบอนุญาตฮัจญ์อย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีผลตั้งแต่วันพุธ ที่ 25 เชาวาล 1446 ซึ่งตรงกับวันที่ 23 เมษายน 2568 เป็นต้นไป ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตฮัจญ์ที่ถูกต้อง จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้า และถูกส่งตัวกลับไปยังจุดที่เดินทางออกมา

เข้าเขตมักกะฮ์ต้องมีวีซาฮัจญ์เท่านั้น! ซาอุฯ แจ้งวันเริ่มมาตรการเข้ม

กระทรวงมหาดไทยยังประกาศว่า “การออกใบอนุญาตอุมเราะฮ์ ผ่านแพลตฟอร์ม Nusuk จะถูกระงับสำหรับพลเมืองซาอุดีอาระเบีย พลเมืองประเทศสมาชิก GCC และผู้ถือวีซ่าอื่น ๆ มีผลตั้งแต่วันอังคารที่ 29 เมษายน” การระงับนี้จะอยู่ยาวไปจนถึงวันจันทร์ ที่ 14 ซุลฮิจญะฮ์ 1446 ซึ่งตรงกับวันที่ 10 มิถุนายน 2025

กระทรวง ฯ ย้ำว่า การเข้าเมืองมักกะฮ์ หรือการอยู่ในเมือง จะถูกจำกัดอย่างเคร่งครัดเฉพาะผู้ถือวีซ่าฮัจญ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ที่จะถึงนี้

ทางกระทรวงยังเรียกร้องให้บุคคล และบริษัท และสถานประกอบการให้บริการฮัจญ์ทั้งหมด ปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้ โดยเตือนว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องเผชิญกับการลงโทษทางกฎหมาย กระทรวง ฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือเพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้แสวงบุญทุกคน (อ้างอิงจากhttps://www.facebook.com/share/r/1Bhaa4sDAN/?mibextid=wwXIfr)

บาบอรอเส็ต บินแหละแหนะ คณะกรรมอิสลามจังหวัดสงขลา อีกยังเป็นผู้แทนเบียะซะห์จากประเทศไทยทั้งปีนี้และทุกปีก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่า “ก่อนเข้ามีนาและอารอฟะห์ เจ้าหน้าที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย จะสแกนบัตร Nusuk นุซุกก่อน ซึ่งถ้าใครไปด้วยวีซ่าฮัจญ์หรือวีซ่าที่ถูกต้องจะไม่มีปัญหา ถ้าไปด้วยวีซ่าอื่นจะเข้าไม่ได้” นั่นหมายความคนๆนั้นก็ไม่สามารถทำฮัจญ์ถูกต้องสมบูรณ์ ซึ่งจะมีผลทั้งหลักศาสนาและปัญหาอื่นๆตามมาอีกหมายมาย

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิไปทำฮัจย์ปีนี้ 2568

สามารถแสกนเข้าไปตรวจสอบรายชื่อของท่านได้ ที่มา : ส่วนส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์ https://www.facebook.com/share/15MccXNHYW/

สามารถโหลดรายชื่อ : https://drive.google.com/file/d/1aap2Oh3kcSIy_6XoKULVCElRaAM_n40R/view?usp=sharing หมายความว่า ถ้าท่านจะไปทำฮัจญ์หรือญาติผู้ที่จะไปทำฮัจญ์ ให้ลองแสกนดูถ้าไม่มีชื่อหมายความว่าท่านหรือญาติท่านโดนแล้ว

ดังนั้นหากเป็นไปตามข่าวจริงๆ ซึ่งชาวบ้านธรรมดาอาจไม่ทราบ เมื่อไปแล้วเกิดปัญหา ใคร จะรับผิดชอบ ?

หมายเหตุติดตามข่าวสารกิจการฮัจญ์ไทยอย่างเป็นทางการใน https://www.facebook.com/share/1AY4kESpjS/?mibextid=wwXIfr

ด้านนักวิชาการศาสนา ออกมาเคลื่อนไหว การเดินทางไปทำฮัจญ์ด้วยวีซ่าเถื่อน: ปัญหาและทางออก

อ.อำนาจ (อับดุลอาซีซ) มะหะหมัด ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมฮาลาลและตะวันออกกลางศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU)

โดยได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คที่มีนามว่า Amnat Abdul Aziz Mahamad ประกอบพิธีฮัจญ์ หลักปฏิบัติสูงสุดที่มุสลิมทุกคนถวิลหา ทว่าบางคนกลับเลือกทางลัดด้วยการใช้ “วีซ่าเถื่อน” ซึ่งขัดกับทั้งกฎหมายมนุษย์และบัญญัติของพระเจ้า! ดังที่อัลลอฮ์ตรัสว่า:

“และสิทธิของอัลลอฮ์เหนือมนุษย์นั้น คือการทำฮัจญ์ ณ บัยตุลลอฮ์ สำหรับผู้ที่มีความสามารถเดินทางไปยังบัยตุลลอฮ์นั้น และผู้ใดปฏิเสธ แท้จริงอัลลอฮ์ทรงพอเพียงจากประชาชาติทั้งหลาย” (อาละอิมรอน 3:97)

แต่ในปัจจุบัน เกิดปรากฏการณ์น่าเป็นห่วง คือผู้ศรัทธาบางกลุ่มเดินทางไปทำฮัจญ์โดยใช้ วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าเถื่อน ซึ่งผิดทั้งกฎหมายสากล และหลักการศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรง ทั้งอาจทำให้พิธีฮัจญ์ ขาดจากความสมบูรณ์ที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงประสงค์ และก่อให้เกิดผลเสียหายทางสังคมตามมาอย่างหนักหน่วง

  1. ความสัมพันธ์ระหว่างฮุก่มอิสลามกับฮุก่มอาดัต (กฎหมายบ้านเมือง)

(1) หลักการปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองในอิสลาม อิสลามบัญชาให้มุสลิมเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายประเทศที่ตนอาศัยหรือเดินทางไป ตราบใดที่ไม่ขัดกับหลักการศาสนา อ้างอิงจาก:

• ซูเราะฮ์อันนิซาอ์ (4:59) “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงเชื่อฟังอัลลอฮ์ และจงเชื่อฟังเราะซูล และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้า”

(อิมามอัฏ-เฏาะบะรีย์ตีความว่า “ผู้ปกครอง” รวมถึงการเคารพกฎหมายที่ชอบธรรม) • ซูเราะฮ์อัลมาอิดะฮ์ (5:1) “โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงปฏิบัติตามสัญญาทั้งหลาย”

การขอวีซ่าเป็นการทำสัญญากับรัฐ การฝ่าฝืนวีซ่าคือการละเมิดสัญญาโดยชัดเจน • ฮะดีษบันทึกโดยอัตติรมิซี “การเชื่อฟังเป็นหน้าที่ในสิ่งที่ไม่ใช่บาป แต่ถ้าเป็นบาปต้องปฏิเสธ”

การใช้วีซ่าผิดวัตถุประสงค์ ถือว่าล่วงละเมิดกฎระเบียบที่ชอบธรรม ไม่อนุญาตในอิสลาม (2) กฎเกณฑ์ฟิกฮ์เกี่ยวกับกฎหมายบ้านเมือง

บรรดาอุละมาอ์วางหลักฟิกฮ์ไว้ว่า: • “العادة محكمة” (อัลอาดะฮ์มุฮักกะมะฮ์) “จารีตประเพณีมีฐานะเป็นกฎหมาย” หมายความว่า กฎระเบียบของบ้านเมืองที่ไม่ขัดกับหลักการอิสลามมีผลบังคับใช้ทางศาสนา

• “تصرف الإمام على الرعية منوط بالمصلحة” “การกระทำของผู้นำต้องยึดโยงกับผลประโยชน์สาธารณะ” หมายความว่า กฎหมายที่ออกโดยรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เช่น กฎการควบคุมจำนวนฮุจยาจถือเป็นสิ่งที่ชอบด้วยหลักการอิสลาม

• “ما لا يتم الواجب إلا به فهو واجب” “สิ่งที่ทำให้วาญิบสมบูรณ์ ก็เป็นวาญิบด้วย” หมายความว่า การปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้สามารถทำฮัจญ์ได้อย่างถูกต้อง ก็ถือเป็นข้อบังคับทางศาสนาด้วย การปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อทำฮัจญ์โดยถูกต้อง จึงถือเป็นหน้าที่ทางศาสนาเช่นกัน ⸻

  1. ฮุก่มการทำฮัจญ์ด้วยวีซ่าเถื่อน

(1) ฟัตวาจากองค์กรศาสนาระดับโลก

คณะกรรมการฟัตวาอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (อัล-ลัจญ์นะฮ์ อัด-ดาอิมะฮ์)

• ฟัตวาหมายเลข 17111: “ไม่อนุญาต ให้มุสลิมทำฮัจญ์ด้วยวีซ่าประเภทอื่นที่ไม่ใช่วีซ่าฮัจญ์ เพราะเป็นการหลอกลวงและฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศที่ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” • “การฝ่าฝืนกฎระเบียบของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียในเรื่องนี้เป็นการให้เกียรติต่อความพยายามของรัฐบาลในการจัดการดูแลพิธีฮัจญ์อย่างมีประสิทธิภาพ”

องค์การสันนิบาตมุสลิมโลก (Muslim World League)

• ออกประกาศเมื่อปี ค.ศ. 2019 ว่า “การเดินทางไปทำฮัจญ์โดยใช้วีซ่าที่ไม่ถูกต้องขัดกับหลักการอิสลามที่สอนให้เคารพกฎหมายและระเบียบสาธารณะ”

• “ผู้ที่ทำฮัจญ์ด้วยวีซ่าเถื่อนแม้จะได้ทำพิธีกรรมครบถ้วน แต่อาจไม่ได้รับผลบุญอย่างสมบูรณ์”

(2) ทัศนะของนักวิชาการอิสลาม

เชค มุฮัมมัด บิน ศอลิฮ์ อัล-อุษัยมีน (ซาอุดีอาระเบีย, ฮันบะลี) • ในหนังสือ “มัจญ์มูอ์ ฟะตาวา วะ รอซาอิล อิบนุ อุษัยมีน”: “การทำฮัจญ์ด้วยวิธีผิดกฎหมายทำให้ฮัจญ์ไม่สมบูรณ์ในแง่ของการยอมรับ แม้จะถูกต้องในแง่ของการปฏิบัติ เพราะขาดเงื่อนไขสำคัญคือการเดินทางอย่างถูกกฎหมาย” • “หากผู้ใดทำฮัจญ์ในลักษณะนี้ เขาต้องขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์และพยายามทำฮัจญ์อีกครั้งอย่างถูกต้อง”

ดร. ยูซุฟ อัล-เกาะรอฎอวีย์ (กาตาร์, ร่วมสมัย) • ในหนังสือ “ฟิกฮุล อุละวิยาต” (กฎหมายอิสลามว่าด้วยการจัดลำดับความสำคัญ): “มุสลิมต้องไม่ใช้วิธีการผิดกฎหมายเพื่อไปทำฮัจญ์ แม้ว่าจะมีความตั้งใจดีก็ตาม เพราะในอิสลามจุดประสงค์ที่ดีไม่อาจทำให้วิธีการที่ไม่ถูกต้องกลายเป็นสิ่งที่อนุมัติได้” • “การใช้วีซ่าเถื่อนเพื่อทำฮัจญ์เป็นการเหยียบย่ำหลักการสำคัญของอิสลามคือความซื่อสัตย์และสัญญา”

เชค ญาดุ้ลฮัก (อียิปต์, อดีตเชคอัล-อัซฮัร) • “การละเมิดกฎหมายบ้านเมืองที่ไม่ขัดกับหลักการอิสลามเป็นสิ่งต้องห้าม (ฮะรอม) และผลบุญของการทำอิบาดะฮ์ (การเคารพภักดี) ด้วยวิธีการต้องห้ามย่อมถูกลดทอนลง”

แม้ทำพิธีครบถ้วน ก็อาจ ไม่ได้ผลบุญอย่างสมบูรณ์

  1. การห้ามการโกงและหลอกลวงในอิสลาม

การใช้วีซ่าเถื่อนหรือวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อไปทำฮัจญ์เข้าข่ายการหลอกลวงซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม:

(1) หลักฐานจากอัลกุรอาน • ซูเราะฮ์อัล-บะเกาะเราะฮ์ (2:188) “และพวกเจ้าอย่ากินทรัพย์สินระหว่างพวกเจ้าโดยไม่ชอบธรรม” อิมามอัล-กุรฏุบีย์อธิบายว่าการใช้วิธีการหลอกลวงเพื่อหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ถือเป็นการกินทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม

• ซูเราะฮ์อัล-มุฏ็อฟฟิฟีน (83:1-3) “ความหายนะจงประสบแก่บรรดาผู้โกงตวง ผู้ซึ่งเมื่อพวกเขาตวงเอาจากผู้คน พวกเขาก็ตวงเอาเต็ม แต่เมื่อพวกเขาตวงหรือชั่งให้ผู้อื่น พวกเขาก็ให้ขาด” อายะฮ์นี้สอนเรื่องความซื่อสัตย์ในการทำธุรกรรมซึ่งอุละมาอ์ขยายความรวมถึงการไม่หลอกลวงในทุกรูปแบบ

(2) หลักฐานจากฮะดีษ

• บันทึกโดยอิมามมุสลิม ท่านนบีมุฮัมมัด ﷺ กล่าวว่า: “ผู้ใดโกงเรา เขาไม่ใช่พวกเรา” การใช้วีซ่าผิดประเภทเพื่อเลี่ยงขั้นตอนที่ถูกต้องถือเป็นการโกงระบบ

• บันทึกโดยอิมามอัต-ติรมิซี ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า: “มุสลิมผูกพันตามเงื่อนไขที่พวกเขาตกลงกัน” การขอวีซ่าประเภทหนึ่งแต่ไปทำอีกอย่างหนึ่งเป็นการผิดเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ • บันทึกโดยอิมามอะฮ์มัด ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า: “สัญญาณของคนหน้าไหว้หลังหลอกมีสามประการ: เมื่อพูดก็โกหก เมื่อสัญญาก็ผิดสัญญา และเมื่อได้รับความไว้วางใจก็ทรยศ”

  1. ผลกระทบด้านความปลอดภัยและการดูแล

• ไม่ได้รับการดูแลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากไม่อยู่ในระบบของคณะผู้จัดการฮัจญ์ที่ได้รับอนุญาต • มีความเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงโดยเอเย่นต์เถื่อน ที่ไม่มีมาตรฐานและไม่มีความรับผิดชอบ • ไม่มีประกันสุขภาพและการดูแลทางการแพทย์ ที่ทางการซาอุดีอาระเบียจัดไว้สำหรับฮุจยาจที่ถูกกฎหมาย ⸻

  1. ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาวีซ่าเถื่อน

(1) ตัวผู้เดินทาง

• มีหน้าที่ศึกษาและตรวจสอบให้แน่ใจว่าวีซ่าที่ได้รับถูกต้องตามกฎหมายและเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์การเดินทาง • ต้องรับผิดชอบหากฝ่าฝืนกฎหมายโดยเจตนา เพราะอิสลามสอนให้มุสลิมรับผิดชอบต่อการกระทำของตน ดังที่อัลลอฮ์ตรัสในซูเราะฮ์อัล-มุดดัษษิร (74:38): “ทุกชีวิตถูกจำนำไว้ด้วยสิ่งที่เขาได้กระทำ”

(2) เอเย่นต์หรือผู้จัดการฮัจญ์ • บาปหนักหากโกหกหลอกลวงผู้แสวงบุญ ว่าสามารถเดินทางไปทำฮัจญ์ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวได้โดยไม่มีปัญหา • ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายและชดใช้ค่าเสียหาย หากรู้เท่าทันว่าวีซ่าไม่ถูกต้องแต่ยังส่งลูกค้าไป • อาจมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามกฎหมายไทยหากเจตนาหลอกลวงผู้แสวงบุญ ดังที่ท่านนบี ﷺ กล่าวไว้ในฮะดีษบันทึกโดยอิมามมุสลิม: “ผู้ใดชี้นำไปสู่ความชั่ว เขาจะได้รับบาปเท่ากับบาปของผู้ที่ทำตามเขา โดยไม่ลดบาปของคนเหล่านั้นแต่อย่างใด”

(3) หน่วยงานรัฐและองค์กรศาสนา • สำนักจุฬาราชมนตรีและกรมการศาสนา ควรมีการให้ความรู้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎระเบียบการเดินทางไปทำฮัจญ์ • สมาคมส่งเสริมกิจการฮัจญ์ไทย ควรมีมาตรการตรวจสอบ และควบคุมอย่างเคร่งครัด

  1. ทางออกสำหรับมุสลิมไทย

• ตรวจสอบวีซ่าผ่าน แอป Nusuk • ใช้เอเย่นต์ที่ได้รับอนุญาต • หากยังไม่มีเงินพอ ต้องรอด้วยความอดทน (อัลกุรอาน 2:286) “อัลลอฮ์ไม่ทรงบังคับใครเกินความสามารถของเขา”

สรุปสุดท้าย: อย่าแลกฮัจญ์ด้วยบาป!

การไปทำฮัจญ์ด้วยวีซ่าเถื่อนคือการ แบกบาปไปสู่บัยตุลลอฮ์ แทนที่จะได้ความบริสุทธิ์กลับมา!

เพราะเป็นการละเมิดทั้งกฎหมายอิสลามและกฎหมายสากล และอาจทำให้ พิธีฮัจญ์ไม่ถูกยอมรับโดยพระองค์อัลลอฮ์ ผู้ศรัทธาจึงจำเป็นต้องตั้งเจตนาให้บริสุทธิ์ทั้งวิธีการและเป้าหมาย เพื่อให้การเดินทางไปเยือนบัยตุลลอฮ์เป็นการเดินทางที่พระองค์ทรงพอพระทัยอย่างแท้จริง

#ข่าว #องค์กรศาสนา #ประกอบพิธีฮัจย์ #กิจการฮัจย์ #ทางการซาอุฯเข้มงวดมาตรการ#วีซ่าอื่นไม่สามารถเข้าประกอบพิธีฮัจย์ได้ #ThePoligensNews

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *