เมื่อ 27 สิงหาคม 2568 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดกิจกรรม “International Day หัวข้อ Together for Tomorrow – SDGs Fusion Fest” ณ เรือนอำมาตย์โทพระยาพิบูลย์พิทยาพรรค เปิดเวทีเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรม เสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา และวิถีชีวิต
โดยมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีเปิด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี กล่าวต้อนรับ และรองศาสตราจารย์ ดร.มนทิรา ลีลาเกรียงศักดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ กล่าวรายงาน ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากกงสุลมาเลเซีย กงสุลอินโดนีเซีย แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา วัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี ผู้แทนจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี นายกเทศมนตรีเมืองรูสะมิแล ผู้บริหารจาก Adamson University ประเทศฟิลิปปินส์ และ Universiti Malaya ประเทศมาเลเซีย รวมทั้งผู้แทนจากเครือข่าย RENPER เข้าร่วมงาน
กิจกรรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน ประกอบด้วยนักศึกษาไทยและต่างชาติ คณาจารย์ บุคลากร ผู้แทนจากสถานกงสุล และผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานด้านการพัฒนา กิจกรรมสำคัญประกอบด้วย ขบวนพาเหรดวัฒนธรรม นิทรรศการภาษานานาชาติ บูธอาหารนานาชาติ การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการจังหวัดปัตตานี สะท้อนถึงพลังของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศักยภาพของชุมชนท้องถิ่นในการเชื่อมโยงกับประชาคมโลก
นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวถึงความสำคัญของความหลากหลายทางวัฒนธรรมว่า เป็นพลวัตสำคัญของสังคมโลก ที่ต้องอาศัยความเข้าใจ ความเคารพซึ่งกันและกัน และความร่วมมือที่ยั่งยืน เพื่อก้าวไปสู่สันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาที่มีคุณภาพ “การจัดงานครั้งนี้มิใช่เพียงกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะการยุติความยากจนในทุกรูปแบบ การส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม รวมถึงการสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลก ขอชื่นชมบทบาทของม.อ.ปัตตานี ที่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการผลิตองค์ความรู้แล้ว ยังทำหน้าที่เป็น “พลังขับเคลื่อนทางสังคม” ผ่านการดำเนินโครงการวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการในพื้นที่ โดยอาศัยความร่วมมือจากชุมชน จังหวัด ภูมิภาค และนานาชาติ จนก่อให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม อาทิ การสร้างอาชีพใหม่ การส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนและการสนับสนุนให้เยาวชนเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม”
International Day ยังมุ่งเปิดโลกทัศน์ให้นักศึกษาไทยได้เรียนรู้วัฒนธรรมนานาชาติผ่านขบวนพาเหรด การแสดง บูธอาหาร และกิจกรรมด้านภาษา พร้อมให้นักศึกษาต่างชาติสัมผัสความงดงามของวัฒนธรรมไทยและมลายูท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาและพลังของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งภายในงานมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ ซึ่งสะท้อนศักยภาพของชุมชนในการต่อยอดองค์ความรู้และภูมิปัญญาเป็นสินค้าที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เชื่อมโยงท้องถิ่นกับประชาคมโลก และสอดคล้องโดยตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า ม.อ.ปัตตานี มีความภาคภูมิใจที่ได้บูรณาการโครงการ International Day เข้ากับการดำเนินงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการในจังหวัดปัตตานี ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชน นวัตกรรม และองค์ความรู้ ที่สะท้อนถึงความสามารถของคนในพื้นที่ในการสร้างคุณค่าและความยั่งยืน ขยายโอกาสไปสู่การแลกเปลี่ยนในระดับนานาชาติ มหาวิทยาลัยมิได้เป็นเพียงสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็น “สะพาน” เชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นกับสากล สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันต่างประเทศ อาทิ Adamson University ประเทศฟิลิปปินส์ และ Universiti Malaya ประเทศมาเลเซีย ตลอดจนกงสุลและองค์กรพันธมิตรในพื้นที่
International Day ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 6 ปี ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ หรือ บพท. สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผลงานจากโครงการสะท้อนถึงการบูรณาการองค์ความรู้เชิงวิชาการกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนจังหวัดปัตตานีอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งเน้นนำเสนอบทบาทของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในมิติยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่ มิติการศึกษาที่มีคุณภาพ เท่าเทียม และครอบคลุม และมิติการเสริมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
Mohamed Sidibe จากประเทศกินี นักศึกษาปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บอกว่า ได้ทุนมาเรียนระดับปริญญาตรี คณะวิทยาการอิสลาม ทุนครอบคลุมทุกอย่างจนจบป.ตรี ตอนนี้เรียนต่อป.โท พร้อมกับทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทปุ๋ยที่หาดใหญ่ ตอนนี้เดินทางไป-กลับ ไทย-กินี เพื่อนำเข้าปุ๋ยไปขายที่กินี
“อัลฮัมดุลิลลาฮมากสำหรับนักศึกษามุสลิม ขอบคุณมากที่อาจารย์และเพื่อนๆ ทุกคนใจดีกับเรา มีเพื่อนมาจากกินี ไลบีเรีย ไนจีเรีย ทุกคนไม่มีปัญหาเลยกับการเรียนและใช้ชีวิตที่นี่”
#ข่าว #มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ #วิทยาเขตปัตตานี #เปิดเวที #InternationalizationOnCampus #สร้างสีสันนานาชาติ #ขับเคลื่อนSDGs #สู่ความยั่งยืน #ThePoligensNews