สิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ทางเครือข่าย Save Yamu Network - เครือข่ายรักษ์ยามู ได้รวมตัวยื่นหนังสือคัดถ่ายข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการกำจัดขยะมูลฝอยผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าขององค์การบริหารส่วนตำบลยามู และขอทราบกระบวนการขั้นตอนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
ตัวแทนของกลุ่มเครือข่ายรักษ์ยามู กล่าวว่า
"เราเป็นกลุ่มประชาชนในพื้นที่ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี มีความห่วงกังวลเกี่ยวกับปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย และวิถีชีวิตชุมชนที่จะเกิดจากโครงการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า เราจึงมาขอใช้สิทธิคัดถ่ายสำเนาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตชุมชนภูมี (น้ำพุ่ง) หมู่ที่ 2 ตำบลภูมิ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เพื่อใช้ประกอบการมีส่วนร่วมติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการ"


ทางเครือข่ายรักษ์ยามูได้ขอคัดถ่ายข้อมูลต่อไปนี้ โดยให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลตอบกลับภายใน 15 วัน
1. เอกสารความคืบหน้าโครงการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า องค์การบริหารส่วนตำบลยามู ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตชุมชนภูมีน้ำพุ่ง หมู่ที่ 2 ตำบลภูมิ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
2. รายงานแจ้งสถานะการดำเนินโครงการในปัจจุบัน และกระบวนการดำเนินงานภายภาคหน้าต่อไป
3. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ทั้งรายงานการจัดทำรายงานประมวลหลักการปฏิบัติ (Code of Practice : COP) และรายงานสรุปเวทีประชาคมรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด
ทางตัวแทนเครือข่ายยืนยันว่าหน่วยงานรัฐจะต้องจัดเตรียมข้อมูลตามคำขอของประชาชนตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจสอบและขอคัดถ่ายสำเนาได้


ด้านนายหามะกอเซ็ง เจะมะ นายก อบต.ยามู แจ้งในที่ประชุมหลังจากเปิดคลิปวิดีโอนำเสนอโครงการว่า
"เราอยากให้ชุมชนภูมี (พื้นที่ตั้งโครงการ) มีการพัฒนา จึงอยากให้โครงการนี้ดำเนินการต่อไปได้ โดยจะมีกองทุนของชุมชนสร้างรายได้ สร้างอาชีพกับคนในชุมชน แล้วผมตั้งใจว่าจะหางบพาตัวแทนชาวบ้านไปดูงานโรงไฟฟ้าขยะระบบปิด"
เขากล่าวเสริมว่า
"ได้ติดประกาศเชิญชวนร่วมเวทีประชาคมรับฟังความคิดเห็นและทำประชามติเมื่อสามปีที่แล้ว ที่สนามฟุตบอลบ้านป่าหลวง ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 400 คน จากหลายชุมชน เช่น ชุมชนป่าหลวง ชุมชนภูมี ชุมชนหนองแรด"
แต่ผู้เข้าร่วมตั้งข้อสังเกตว่าทำไมไม่มีประกาศให้ทราบอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในเพจประชาสัมพันธ์ของ อบต. ก็ไม่มีประกาศ

ทางด้านนายหามะกอเซ็ง ชี้แจงต่อว่า
"หลังจากได้ติดประกาศให้ทราบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนชราหรือคนที่ทำงานอยู่ที่บ้านสะดวกมาร่วม โดยทั้ง 400 คนเห็นด้วยกับการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าขยะ มีคนไม่เห็นด้วยเพียง 4 คน หลังจากรับทราบข้อมูลแล้วทั้ง 4 คนจึงได้เห็นด้วยกับโครงการ ส่วนคนอื่น ๆ ที่ไม่มาร่วมเวทีประชามติถือว่าเป็นการสละสิทธิ์ไม่มาใช้สิทธิ"
ระหว่างการประชุม ได้มีการพูดเชิงข่มขู่ว่าการปล่อยข้อมูลเท็จของเครือข่ายฯ ส่อผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เช่น กรณีงบก่อสร้างจากเอกสารการดำเนินโครงการที่หลุดมา ระบุว่าใช้งบประมาณ 1,750 ล้านบาท แต่ทางนายกแจ้งว่าที่จริงแล้วใช้งบกว่า 1,900 ล้านบาท
ตัวแทนเครือข่ายรักษ์ยามูสะท้อนความรู้สึกหลังจากเข้าร่วมประชุมว่า
"ท่าทีของ อบต. แสดงชัดเจนว่าจะดันทุรังดำเนินการโครงการนี้ต่อไป ที่ทางเขามีแผนจะพาชาวบ้านไปดูงาน และจะดำเนินการทำข้อตกลงร่วมกับชุมชนรอบโครงการต่อไป โดยไม่ยินดียินร้ายต่อผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และวิถีชีวิตของชุมชน"
ก่อนที่ผู้เข้าร่วมยื่นหนังสือแยกย้าย ได้ชูป้ายคัดค้าน และให้เจ้าหน้าที่ของ อบต. ปั๊มตราเอกสารและเซ็นรับหนังสือ เพื่อติดตามการคัดถ่ายสำเนาภายใน 15 วัน โดยทางนายก อบต. แจ้งว่าจะขอปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วจะส่งเอกสารบางส่วนที่ไม่กระทบกับบุคคลที่สาม
ข้อมูลที่มา: The Patani Resource คณะพิทักษ์ฐานทรัพยากรและการพัฒนาที่ยั่งยืน




#ข่าว #สิ่งแวดล้อม #เครือข่ายรักษ์ยามู #คัดค้าน #โครงการโรงไฟฟ้าขยะ #ThePoligensNews