งานรำลึก ครบรอบ 71ปี “การถูกบังคับสูญหายของฮัจยี สุหลง” ปีนี้จัดธีม ดวงดาว-ดาราศาสตร์ ปฏิทินหะยีสุหลง ผู้คนเข้าร่วมคึกคักตลอดทั้งงาน

กระบวนการสันติภาพ ความยุติธรรม

เมื่อ 13 สิงหาคม 2568 ช่วงท้ายของงานรำลึก 71 ปี การถูกบังคับสูญหายของหะยีสุหลง โต๊ะมีนา พร้อมคณะ พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม กล่าวปิดงานพร้อมสรุปกิจกรรมตลอดทั้งงาน

โดยกล่าวว่า ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน ท่านเด่นโต๊ะมีนา ประธานมูลนิธิฯ วิทยาลัยฮัจยีสุหลง K-HAS ท่านวิทยากรทุกท่าน ,รองอธิการบดีคณะวิทยาศาสตร์ มอ.ปัตตานี ,ญาติพี่น้องตระกูลโต๊ะมีนา ,ญาติพี่น้องจากหลากหลายสาย , ครอบครัวผู้สูญหายและแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงประชาชนทุกคนที่เข้ามาร่วมงานในครั้งนนี้

ในค่ำคืนวันนี้ 13 สิงหาคม 2568 เราได้มารวมตัว กันอีกครั้งหนึ่ง ณ บ้านหลังนี้ “ บ้านไม้สีน้ำตาลเข้ม ยกพื้นสูง เรือนมลายูบ้านหลังนี้คือ บ้านปลูกศรัทธา จุดโคมไฟความรู้ให้ส่องสว่าง ความมืดจะต้องหมดสิ้นไป ความสว่างของปัญญา ความคิดจะคอยนำทางผู้คนออกจากความมืด แม้ผู้ปลูกสร้างบ้านเรือนบ้านนี้ ได้ลาลับ คืนสู่นิรันดร “

ตอนหนึ่งของบทกวี ของบังเช ซาการียา อำมาตรยา กวีซีไรค์ ซึ่งได้อ่านครั้งแรก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ณ บ้านหลังนี้ ตอนนั้นครบรอบ 61 ปีของการบังคับการสูญหายของต่วนฆูรูฮัจยีสุหลง อับดุลกอเดร์ โต๊ะมีนา คุณลุง อาหมัด โต๊ะมีนา,คุณวัง อุสมาน บินอาหมัด,ฮัจยีเจ๊ะอิสเฮาะ บินเจ๊ะยูโซะ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของคุณปู่ (ฮัจยีสุหลง) แม้ว่าเจ้าของบทกวีไม่สามารถที่จะมาร่วมงานในวันนี้ได้แต่ถ้อยคำก็ยังอยู่ในสูจิบัตรที่เราได้รับในวันนี้และในหัวใจของครอบครัวโต๊ะมีนา

วันนี้วันครบรอบ 71 ปีของการบังคับการสูญหายของท่านทั้ง 4 ท่าน วันที่ 13 สิงหาคม 2497 วันที่ครอบครัวเราไม่รู้เลยว่าการส่งที่หน้าบันได บันไดที่กล่าวถึงตอนนั้นอยู่ข้างหน้านี้ ตอนนี้ย้ายไปอยู่ข้างๆของบ้านหลังนี้ และเช้าวันนั้นการจากลาไปตลอดกาล บ้านหลังนี้จึงไม่ใช่การเพียงแต่เป็นที่พักอาศัย แต่คือบันทึกความทรงจำของประวัติศาสตร์ปาตานี

เมื่อ10 ปีที่แล้วคุณพ่อเด่น โต๊ะมีนา วันนั้นท่านอายุ 80 ปี ถึงตอนนี้ท่านอายุ 91 ปีแล้ว ท่านได้ประกาศในงานสายสัมพันธ์ลูกหลาน อับดุลกอเดร์ ต่วนมีนา ขอให้ลูกหลานสานต่อเจตนารมย์ของท่าน คือทุกวันที่ 13 สิงหาคม ของทุกปี ให้มีการละหมาด ทำอัรเวาะห์ มอบแด่บรรพบุรุษที่ล่วงลับ และจัดงานรวมตัวของญาติเพื่อเป็นการรำลึกถึงการเสียชีวิตเพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น

ปีแรกเราจัดภายในเครือญาติในบริเวณบ้านแห่งนี้ เช่นกัน แต่ว่าท่าน ต่วนฆูรู ฮัจยีสุหลง เป็นบุคคลสาธารณะ ทุกครั้งที่จัดก็จะมีผู้คนอื่นๆจากทั่วสารทิศที่มิใช่เฉพาะญาติพี่น้องเท่านั้น มาร่วมงานในวันสำคัญเพื่อรำลึกถึงวันที่ท่านต้องถูกบังคับให้สูญหาย ฉะนั้นเรื่องราวของท่าน มีหลากหลายมิติทำให้ Theme ของงานในแต่ละปีแตกต่างกัน

พญ.เพชรดาว กล่าวอีกว่า ดิฉันขออนุญาตย้อนไปเมื่อสามปีที่แล้ว 2566 เราจัดภายในแนวคิด The Memory of Haji-Sulong หรือร่องรอยความทรงจำต่อ ฮัจยีสุหลง ผ่านการบันทึกเมนูอาหาร, จดหมายจากเรือนจำบางขวาง ในปีที่แล้วเรื่องการศึกษา การจัดตั้งวิทยาลัยฮัจยีสุหลง Kolej Haji-Sulung (K-HAS) ซึ่งปีนี้เราก็มีบู๊ทมาจัด แสดงความคืบหน้า อินซาอัลลอฮ

ปีนี้ปี 2568 เป็นแนวคิด ดวงดาว-ดาราศาสตร์และปฏิทินฮัจยีสุหลง ซึ่งครอบครัวเราคุยกันมานานมาก ว่าเราจะจัดเรื่องนี้ แต่เหมือนพระองค์ทรงเปิดทางให้เมื่อดิฉันได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมในปี 2566 ได้มีโอกาสทราบถึงหน่วยงานในกระทรวง (อว.)ซึ่งวันนี้ดิฉันดีใจมากๆที่ท่านอดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ วันนี้ท่านกรุณามาร่วมงานด้วยตัวท่านเอง รวมทั้งวิทยากรอีกหลากหลายท่าน ทำให้ดิฉันได้รู้จักหอดูดาว อยู่ที่เขารูปช้าง เป็นครั้งแรกที่ไปเมื่อดิฉันดำรงตำแหน่ง แล้วก็ดีใจอีกเช่นกัน ที่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ มอ.ปัตตานี โดยท่านคณะบดี และคณะอาจารย์ทุกท่าน สละเวลามาร่วมจัดงานที่มูลนิธิฮัจยีสุหลง

ทำให้การจัดงานในวันนี้บรรลุตามเป้าหมาย แต่เราไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ ถ้าเราไม่ได้รับงบสนับสนุนจาก วช.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ งบ วช.ครั้งนี้ถือเป็นการฟื้นฟูดาราศาสตร์อิสลามครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะว่าเราจะเห็นได้ว่าตั้งแต่เด็กๆวันรายอทั้งประเทศ เรารู้สึกว่า รายอ วันเดียวกัน เราไม่เคยมีปัญหา แต่ทำไมตอนนี้วันสำคัญทางศาสนา วันรายอของแต่ละพื้นที่ในประเทศไทยไม่เหมือนกัน แม้แต่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เองก็ยังไม่ตรงกัน

ประการถัดมาในเรื่องของทิศหรือ(กิบลัต)ทิศการละหมาดในมัสยิด บางที่ทำไมดูแล้วตรง บางที่อาจจะมีคลาดเคลื่อนบางองศา แต่เนื่องด้วยท่านผู้รู้ทางศาสนา ท่านอยู่ประจำมัสยิดมาช้านาน เราเป็นใคร เป็นนักวิทยาศาสตร์ แล้วเราจะเรียนท่านได้อย่างไร อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ปฏิทินเวลาละหมาด ซึ่งมีอยู่ในทั่วประเทศ แล้วก็ Alhamdulilah ปฏิทินละหมาดของ ฮัจยีสุหลง เป็นที่ยอมรับ

และจากวงเสวนาในวันนี้เราก็จะเห็นความเป็นพหุวัฒนธรรม ความหลากหลายที่มีอยู่ และหลักสูตรทางคณะวิทยาศาสตร์ เรื่องดาราศาสตร์อิสลาม ที่จัดขึ้นสำหรับบุคลากรการศึกษา กับผู้นำศาสนา อัลฮัมดุลิลาฮ เป็นครั้งแรกที่เรามีเวที ที่ได้พูดคุยกัน เราไม่สามารถบอกได้ว่า ทิศมัสยิดนี้คลาดเคลื่อนนะ ตรงนี้ยังไม่ถูกนะ แต่เราจะมีการหาวิธีอย่างไรที่เราสามารถที่จะพูดคุยได้

ฉะนั้น นิทรรศการบนบ้าน ฮัจยีสุหลง ต้องขอบคุณทางซับเบอร์ ที่วาดฝันที่เราฝันด้วยกัน ทำให้เรามีเทศกาลที่มีชีวิต สำหรับการจัดกิจกรรมรำลึก 71 ปี วันนี้ มีผู้เข้าร่วมหนึ่งพันกว่าคน

เรื่องราวดาราศาสตร์ และปฏิทินฮัจยีสุหลง ทำให้เราได้พบ ได้รู้จักดาราศาสตร์อิสลาม และปฏิทินชาวบ้าน เราได้รู้จักชมรมดาราศาสตร์ปอเนาะปัตตานี แล้วก็วันนี้ได้มีบู๊ธของดาราศาสตร์อิสลามในพื้นที่ที่เราได้ร่วมเรียนรู้ซึ่งกันและกันด้วย และปีนี้เป็นปีแรกที่ทาง มูลนิธิฮัจยีสุหลง ได้มอบโล่รางวัล Haji Sulong Changemaker Award 2025 ใน 3 ด้านก็คือด้านการศึกษา ด้านสังคม และปีนี้ในเรื่องดาราศาสตร์ และด้านสันติภาพ ซึ่งสะท้อนเจตนารมย์ตามข้อเสนอ 7 ข้อ ของฮัจยีสุหลง และชาวปาตานี ต่อรัฐบาล เมื่อ 78 ปีที่แล้ว

ค่ำคืนนี้ ดิฉันขอปิดงานด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความขอบคุณ ดุอาร์ต่อเอกองค์อัลลอฮ (ซบ.)ได้โปรดประทานพรแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับ รวมทั้งวิทยากรในงาน 13 สิงหาคม ที่ผ่านๆมา ที่กลับสู่ความเมตตาของพระองค์ อัลฟาติฮะห์แด่ผู้จากที่อุทิศตนเพื่อสังคม

ชมไลฟ์ย้อนหลังภาคเวทีฉบับเต็ม https://www.facebook.com/share/v/19QH9eHF87/

กิจกรรมส่วนหนึ่งภายในงานมีฉายสารคดี “คนหลังภาพ”ซึ่งจัดทำโดย คุณนวลน้อย ธรรมเสถียร

หะยีสุหลง เป็นชื่อที่คุ้นหูอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจความเป็นไปและปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ความคุ้นชินอาจไม่ได้หมายความว่ารู้จัก แท้ที่จริงแล้วเรื่องราวของหะยีสุหลงที่บอกเล่ากันในที่ต่างๆนั้นมีความแตกต่างกันราวกับเป็นคนละเรื่อง ทำให้เรื่องของเขามีลักษณะคล้ายเหรียญสองด้านที่แต่ละด้านล้วนมีผู้นำไปขยายต่อแล้วแต่การตีความของแต่ละคน เรื่องราวบางส่วนยังได้รับการขยายความและพูดถึงจนแทบจะกลายเป็นภาพด้านเดียวของหะยีสุหลง ขณะที่อีกหลายอย่างยังไม่ได้มีการค้นคว้าจนแทบจะลืมกันไป ทั้งหมดนี้ทำให้อาจพูดได้ว่า หะยีสุหลงนั้นเป็นบุคคลที่สาธารณะเหมือนจะรู้จักดี แต่แท้ที่จริงแล้วแทบจะไม่รู้จักเลย หรือไม่ ก็รู้จักเพียงในแง่มุมแคบๆเท่านั้น

สารคดี “คนหลังภาพ” เป็นความพยายามที่จะดึงประเด็นหลักจากเรื่องราวขั้นต้นของหะยีสุหลง อับดุลกอเดร์ โต๊ะมีนามาบอกเล่าเพื่อให้เห็นบริบทอย่างที่เราควรรู้ก่อนที่จะช่วยกันค้นคว้าแสวงหาคำตอบอื่นใดต่อไป

#ข่าว #ประวัติศาสตร์ปาตานี #กิจกรรมรำลึก #ครบรอบ71ปีการถูกบังคับสูญหาย #ฮัจยีสุหลงโต๊ะมีนา #เสวนาวิชาการ ดวงดาวดาราศาสตร์และปฏิทินหะยีสุหลง #13สิงหาของทุกปี #ThePoligensNews

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *