
นายศรชัย ตลาสุข รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี ได้พาคณะผู้สื่อข่าวชมสถานที่การจัดโครงการศูนย์การเรียนการสอนอัลกุรอานระบบกีรออาตี ณ เรือนจำกลางปัตตานี จังหวัดปัตตานี นำโดย นายอิบรอเหม เบ็ญนา ผอ.สำนักงานเลขานุการ ผอ.กสม. ศอ.บต. ร่วมติดตาม ภาพรวมของกิจกรรม ตามนโยบาย "120 วัน วาระพืชกระท่อม" ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.

ซึ่งโครงการที่จะเกิดขึ้นภายในเรือนจำกลางปัตตานีเป็นโครงการที่มีชื่อว่า “โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนการสอนอัลกุรอาน ระบบกีรออาตี” ด้วยความร่วมมือระหว่างเรือนจำกลางปัตตานี กับ มูลนิธิการกุศลเพื่อการศึกษาอัลกุรอาน โดยมี ศอ.บต. สนับสนุนงบประมาณในการจัดโครงการครั้งนี้
โครงการนี้ทางเรือนจำกลางปัตตานีได้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาผู้ต้องขังในทุกมิติ ร่วมกับมูลนิธิการกุศลเพื่อการศึกษาอัลกุรอาน โรงเรียนอัลกุรอานและภาษากาลามุลลอฮ เพื่อประสานความร่วมมือ โดยการคัดเลือกผู้ต้องขังคดีความมั่นคง และกลุ่มผู้ต้องขังคดีอื่นๆที่มีพื้นฐานมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถอ่าน เขียน อัลกุรอาน เพื่อต่อยอดความรู้และพัฒนาไปสู่การเป็น “ครูผู้ช่วยสอน" อัลกุรอาน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะการอ่าน เขียน เรียนรู้ การเข้าใจความหมายของคัมภีร์อัลกุรอาน ให้กับผู้ต้องขังคดียาเสพติดและผู้ต้องขังอื่นๆ ภายในเรือนจำ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืนภายในเรือนจำ และช่วยส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมุสลิมทุกคนสามารถอ่าน เขียน เรียนรู้ และเข้าใจ ความหมายของคัมภีร์อัลกุรอาน อันจะนำไปสู่การดำรงตนตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเชิงบวก สนับสนุนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง เพื่อสร้างคนดีคืนสังคม และป้องกันการหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ ตามพันธกิจของกรมราชทัณฑ์

ส่วนโครงการสำหรับผู้ต้องขังไทยพุทธ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ โครงการเคลื่อนหลักธรรมพระราชทาน ธรรมนาวา “วัง” จะทำหน้าที่หลักในการควบคุม แก้ไข และพัฒนาพฤติกรรมนิสัยของผู้ต้องขัง ให้รู้และเข้าใจถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และความสำคัญของวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีไทย ประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อคืนคนดีที่มีคุณค่าสู่สังคม ให้สังคมภายนอกได้ยอมรับภายหลังพ้นโทษ เป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ต้องขังให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายศรชัย กล่าวถึงแนวโน้มของผู้ต้องขังในคดียาเสพติดในปัจจุบันที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งทางพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้มอบนโยบายการต่อต้านอย่างจริงจัง โดยร่วมกับผู้นำทางศาสนาในชุมชน โดยเฉพาะพืชกระท่อมและยาเสพติดอื่นๆ
“ช่วงนี้จะมีผู้ที่ติดยาเสพติดเข้ามามากขึ้น และอีกส่วนก็ต้องไปบำบัดที่ศูนย์ เพื่อให้สังคมปลอดจากยาเสพติดมากขึ้น เพราะยาเสพติดเป็นภัยต่อความมั่นคง โดยทางเรือนจำได้สนับสนุนนโยบายต้องมีการตรวจสารเสพติดทุกเดือน ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังที่ปลอดยาเสพติด เพื่อจะให้เป็นเรือนจำสีขาวให้ได้ อยากฝากไปถึงเยาวชนและทุกคนในจังหวัดที่ยังเสพสารติดเสพทุกชนิดว่า ยาพวกนี้มันทำลายความรัก อิสรภาพ และครอบครัว อยากให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญป้องกันและปราบปราม ดึงผู้เสพเข้าระบบการบำบัดเพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้พวกเขา ส่วนคนที่ค้าขายยาเสพติดก็ต้องเลิกได้แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติ
เชื่อว่าผู้ต้องขังในเรือนจำสามารถเลิกยาเสพติดได้หมด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อพวกเขาออกไปแล้ว อยากให้สังคมให้โอกาส ช่วยประคับประคองให้พวกเขาสามารถเดินในเส้นทางอาชีพที่เขาฝึกตั้งแต่ในเรือนจำได้ หากพวกเขามีอาชีพและรายได้ก็จะไม่หันหลังกลับมายุ่งกับสิ่งพวกนี้ เพราะผู้ต้องขังทุกคนได้รับโทษที่สมควรรับจากข้างในแล้ว อย่าให้สังคมไปลงโทษพวกเขาซ้ำสองอีก”



#ข่าว #เรือนจำกลางปัตตานี #พร้อมเปิดศูนย์ศาสนบำบัด #แก้ปัญหายาเสพติด #จังหวัดชายแดนภาคใต้ #ThePoligensNews
