ปัตตานี ญาติร้อง กสม.และอัยการ กรณีนายนรินทย์มีอาการบาดเจ็บ ขณะควบคุมตัว เชื่อถูก จนท.ทำร้ายร่างกาย, กอ.รมน.แจงล้มเอง-ล่าสุดทางครอบครัวยื่นหนังสือต่อ กมธ.กฏหมายฯ ขอความเป็นธรรม

ญาตินายนรินทย์ร้อง กสม. และอัยการจังหวัดปัตตานี หลังพบร่องรอยบาดแผล เชื่อถูกทำร้ายระหว่างควบคุมตัว

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ครอบครัวของนายนรินทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เดินทางเข้าไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และสำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการควบคุมตัวที่เชื่อว่าอาจมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน

สาเหตุการร้องเรียนเกิดขึ้นภายหลังจากนายนรินทย์ถูกควบคุมตัวในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 โดยเมื่อญาติเดินทางไปเยี่ยม ได้พบว่านายนรินทย์มีอาการผิดปกติหลายอย่าง ทั้งเสียงแหบ พูดไม่ชัด มีบาดแผลตามร่างกาย รวมถึงแผลที่ขาซึ่งทำให้ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ และต้องพยุงตัวขณะเข้าพบญาติ

ครอบครัวจึงร้องขอให้มีการยุติการควบคุมตัวเพื่อให้เขาได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั่วไปอย่างเหมาะสม และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส

ต่อมา เมื่อ วันที่ 2 สิงหาคม 2568 ทางเพจ กอ.รมน.ได้โพสต์ แจงปมญาติร้อง กสม. กล่าวหาเจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัย ยันบาดแผลเกิดจากการล้มขณะวิ่งหนี ไม่ได้ถูกทำร้าย

จากเหตุเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 04.30 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมปัตตานีได้สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมาย หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 3 ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

ระหว่างปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยได้วิ่งหลบหนีออกจากบ้านกลางความมืด โดยเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามเป็นระยะทางประมาณ 150 เมตร ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยจะสะดุดล้มลงและถูกควบคุมตัวในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลังคือ นายนรินทร์ (สงวนนามสกุล)

จากการตรวจร่างกายเบื้องต้นที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร พบเพียงรอยถลอกบริเวณหัวเข่าและจุดอื่นเล็กน้อย สอดคล้องกับคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ว่าบาดแผลดังกล่าวเกิดจากการล้มขณะหลบหนี จากนั้นได้ส่งตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินการตามกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม วันที่ 31 กรกฎาคม ญาติของนายนรินทร์ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายและซ้อมทรมานระหว่างควบคุมตัว

ต่อเรื่องนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า การกล่าวหาดังกล่าว “เกินความเป็นจริง” และย้ำว่าในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายอยู่ในเหตุการณ์ และยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยเกิดบาดแผลจากการล้มเอง ไม่ใช่จากการถูกทำร้าย

กอ.รมน. ย้ำว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่อ่อนไหว เจ้าหน้าที่จึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบและคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน พร้อมขอให้สาธารณชนใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารจากหลายด้าน

กอ.รมน.แจง https://www.facebook.com/share/p/1CQANPrAwW/

ขณะดังกล่าว นักสิทธิมนุษยชนเรียกร้องอัยการสั่งนำผู้ต้องสงสัยจากค่ายอิงคยุทธฯ ตรวจร่างกายที่ รพ.พลเรือน ย้ำต้องเป็นไปตามหลักนิติเวช

วันที่ 2 สิงหาคม 2568 พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ นักสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เรียกร้องให้อัยการมีคำสั่งให้พาผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวภายในค่ายทหารอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพลเรือน ซึ่งสามารถบันทึกบาดแผลได้อย่างละเอียดตามหลักการทางนิติเวช

พรเพ็ญเน้นว่า การตรวจร่างกายควรเกิดขึ้นภายใต้ความเป็นอิสระและได้มาตรฐาน เพื่อความน่าเชื่อถือและความยุติธรรม โดยไม่ใช่การตรวจจากโรงพยาบาลในค่ายทหารเอง ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในด้านความเป็นกลาง

ทั้งนี้ มีการใช้แฮชแท็ก #ปปทรมาน เพื่อสื่อถึงความกังวลต่อกรณีการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมระบุว่า “อัยการมีอำนาจในการสั่งการต่อเจ้าหน้าที่ทหารได้” หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัว

กรณีนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการตั้งคำถามต่อกระบวนการซักถามในพื้นที่พิเศษ โดยเฉพาะเมื่อนาย นรินทร์ ผู้ถูกควบคุมตัวล่าสุด ปรากฏร่องรอยบาดเจ็บหลังถูกจับกุม และญาติได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่าอาจถูกซ้อมระหว่างถูกควบคุมตัว

นักสิทธิมนุษชนในพื้นที่จึงเรียกร้องให้กระบวนการตรวจสอบและคุ้มครองสิทธิเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส โดยเฉพาะในกรณีที่มีข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน.

ล่าสุด จากโพสท์ สำนักข่าว Wartani รายงานว่า เครือข่าย JASAD เเละครอบครัว ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ กมธ.กฎหมายฯ ปมกรณี ‘นายนรินทย์ ’ ถูกทำร้ายร่างกายขณะควบคุมตัว

วันนี้ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ JASAD พร้อมด้วยครอบครัวของนายนรินทย์ (สงวนนามสกุล) เดินทางไปยังศาลจังหวัดปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ กรรมาธิการฯ เป็นผู้รับเรื่อง

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีการร้องเรียนว่านายนรินทย์ ซึ่งถูกควบคุมตัวถูกควบคุมตัวในพื้นที่บ้านท่าสู ม.3 ต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา อาจถูกกระทำขณะควบคุมตัว โดยทางครอบครัวร้องขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม และเป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำที่โหดร้าย

นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาว่าสามารถดำเนินการในกรอบอำนาจหน้าที่ได้อย่างไร พร้อมระบุว่าคดีนี้อาจเป็นเคสแรกที่เข้าสู่กระบวนการตาม พ.ร.บ.ซ้อมทรมาน ซึ่งให้อำนาจอัยการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด โดยย้ำว่า ญาติผู้เสียหายสามารถติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่และอัยการได้ เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“กรณีนี้ควรเป็นกรณีศึกษาและเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต หากหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ใดดำเนินการผิดขั้นตอน ประชาชนสามารถร้องเรียนและขอความเป็นธรรมตามช่องทางที่กฎหมายกำหนดไว้ได้” นายกมลศักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยืนยันจะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิด และพร้อมดำเนินการตามกรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง.

โดยระบุในเอกสารข้อร้องเรียนของเครือข่าย JASAD และครอบครัว กรณีควบคุมตัวนายนรินทย์ มีเนื้อหาดังนี้-

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ JASAD ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายนรินทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี อาชีพครูสอนตาดีกา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในช่วงเช้ามืดของวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 04.30 น. ที่บ้านเลขที่ 4/3 หมู่ 3 ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

ญาติระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังจำนวนมากเข้าปิดล้อมโดยไม่แสดงหมายจับหรือหมายค้น ขณะเข้าตรวจค้นได้ยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องของผู้ถูกควบคุมตัวไว้ และไม่ได้แจ้งว่าเป็นการจับกุมภายใต้กฎหมายใด รวมทั้งไม่แจ้งสถานที่นำตัวไปควบคุมในทันที ทำให้ครอบครัวไม่สามารถติดต่อหรือทราบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตัวนายนรินทย์ได้

จากการเข้าเยี่ยมในวันที่ 31 ก.ค. - 2 ส.ค. 2568 ครอบครัวสังเกตเห็นความผิดปกติทั้งด้านร่างกายและพฤติกรรม ได้แก่:

-อ่อนแรง เดินเองไม่ได้ ต้องพยุงตัว

-พูดไม่ชัด เสียงแหบ

-มีแผลถลอก บวมแดง และรอยฟกช้ำบริเวณแขน ขา และหน้าขา

-มีอาการกลัว หวาดผวา และตอบคำถามไม่ตรงประเด็น

ในเอกสารยังระบุว่า เมื่อครอบครัวขอให้เจ้าหน้าที่พาตัวไปรักษา เจ้าหน้าที่ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ทั้งที่เห็นชัดว่าสภาพร่างกายของผู้ถูกควบคุมไม่ปกติ

ข้อเรียกร้องจาก JASAD และครอบครัว มีดังนี้

1.ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน

2.ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน

3.ยุติการควบคุมตัวนายนรินทย์โดยทันที

4.ส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว พร้อมตรวจสุขภาพโดยละเอียด

5.เยียวยาความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ

6.รับรองสิทธิไม่ให้เกิดการซ้ำเติม หรือการซ้อมทรมานใดๆ ระหว่างควบคุมตัว

หนังสือร้องเรียนดังกล่าวลงนามโดย นายอับดุลเลาะ เงาะ ประธานเครือข่าย JASAD และนางสาวอัสมา เจะสัน น้องสาวของนายนรินทย์ ผู้ยื่นคำร้องในฐานะญาติ

#ข่าว #กระบวนการยุติธรรม #หลักสิทธิมนุษยชน #JASAD #ญาติร้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ #อัยการจังหวัดปัตตานี #กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า #แจงเหตุล้มเอง #ร้องกมธกฏหมายฯ #ขอความเป็นธรรม #ThePoligensNews

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *