สถานการณ์ชายแดนใต้
30 เมษายน 2568

บก.ทัพไทย 30 เม.ย.- ‘ภูมิธรรม’ ย้ำยังไม่ตั้งโต๊ะเจรจาดับไฟใต้ จนกว่าจะได้ผู้มีอำนาจสั่งหยุดยิงมาคุย ยืนยันเงื่อนไขไทยต้องเป็นรัฐเดียว แบ่งแยกไม่ได้ ส่วนจะให้มีลักษณะพิเศษอย่างไร ค่อยหารือกัน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ว่าการประชุมวันนี้ เป็นการสรุปการทำงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาของแต่ละเหล่าทัพ ในการนำนโยบายเฉพาะของกระทรวงกลาโหม 11 ข้อ ไปใช้ในการแก้ไขปัญหา
เมื่อถามว่า การดำเนินนโยบาย 11 ด้าน ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละเหล่าทัพอย่างไรบ้าง ต้องหาแนวทางปรับยุทธศาสตร์อย่างไร โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เคยสั่งการว่าภายใน 7 วันจะต้องสรุปสถานการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้สั่งการว่าภายใน 7 วันต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ และไม่เห็นว่ากองทัพบกไม่สบายใจ ซึ่งข้อเท็จจริง ตนก็ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก ว่าอยากให้ทำงานเชิงรุก เพราะถ้าเรานั่งอยู่ในที่ตั้งเราจะเกิดปัญหาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น จะทำให้เกิดความไม่สบายใจ และเรายังพูดคุยถึงท่าทีของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่จะให้ความร่วมมือตรงนี้ให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งก็มีการประสานงานเข้มข้นขึ้น และพูดถึงความจำเป็นความต้องการของชายแดน 2 ฝั่ง ว่าถ้าเราต้องการให้ตรงนี้ เป็นเขตเศรษฐกิจที่เป็นไปตามศักยภาพที่มี จะช่วยแก้ปัญหาความมั่นคงของทั้งสองฝั่งได้ ซึ่งปัญหาภาคใต้มีความซับซ้อน ไม่ใช่แค่การพูดคุยกับรัฐบาลมาเลเซียอย่างเดียว อาจต้องคุยกับหลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง กับทางศาสนา และคุยกับทุกฝ่าย รวมไปถึงคนที่ให้ที่พักพิงด้วย ณ ตอนนี้ ก็ถือว่ามาด้วยดี เพียงแต่การประชุมที่จะให้เกิดการเจรจาของสองฝ่าย ยังไงตอนนี้ก็ยืนยันว่ายังไม่ตั้ง
เพราะยังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่จะมาคุย เป็นคนที่มีอำนาจสั่งการให้หยุดยิงได้หรือไม่ ถ้าสามารถทำได้ก็คุยกันได้ แต่เคยคุยไปแล้วในขั้นต้นว่าประเทศไทยเป็นรัฐเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ส่วนถ้าจะให้มีลักษณะพิเศษอย่างไรก็ต้องมาคุยกัน พร้อมยืนยัน ตนเคารพในความเป็นพหุวัฒนธรรม และการแก้ไขปัญหาโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม เราไม่มีปัญหา แต่ว่าแบ่งแยกไม่ได้ แยกเป็นรัฐอิสระไม่ได้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทาง กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าชี้แจงอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรากำลังแก้ไขปัญหา ซึ่งกำลังดำเนินไปตามขั้นตอนและกระบวนการ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
นอกจากนี้ ในที่ประชุมสภากลาโหม ได้มีการสรุปสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีผลกระทบ ต่อภูมิภาคต่าง ๆ ด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเราก็ต้องปรับตัว และวางบทบาทของเราต่อมหาอำนาจต่าง ๆ ให้ได้ดุลอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบาก เพราะมหาอำนาจ 2 ทั้งส่วน กำลังเปิดสงครามทางการค้าในขณะนี้
พันเอกหญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงเพิ่มเติม ถึงผลการประชุมสภากลาโหม ที่มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมว่า มีเรื่องเร่งด่วนที่เน้นย้ำ คือ เรื่องสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ จะหาแนวทางร่วมกับทุกฝ่ายทั้งในประเทศ และมาเลเซีย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและยุติเหตุที่ทำลายขวัญกำลังใจ ให้เน้นการนำทำงานเชิงรุก ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แนวทางพัฒนาให้เป็นเศรษฐกิจพิเศษ อาทิเช่น แหล่งอาหารฮาลาล การสร้างอู่ต่อเรือ เป็นต้น

เครดิตข่าว สำนักข่าวไทย
ด้าน "15 สว.ใต้ อัดรัฐบาลเพ้อเจรจาสันติสุขชายแดนใต้ แนะออกกฎหมายปราบก่อการร้าย"
“15 สว.ใต้” จี้ “นายกฯ-ภูมิธรรม” เร่งดับไฟใต้ด่วนไม่ต้องรอ 6-7 วัน อัด รบ.สนใจแต่อินเตอร์เทนเม้นท์คอมแพล็กซ์ แนะออกกฎหมายก่อการร้าย แทน “พ.ร.บ.ฉุกเฉิน-กฎอัยการศึก”
30 เมษายน 2568 - ที่รัฐสภา 15 สว.ภาคใต้ นำโดยนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว.แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้โดยด่วน เนื่องจาก 21 ปีที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงของจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะในเดือนนี้ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.เป็นต้นมามีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากทั้งนักเรียน และพระสงฆ์ที่บิณฑบาต และล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 2 นายถูกยิงเสียชีวิตที่อ.ยะรัง จังหวัดปัตตานี และอำเภอ บันนังสตา จังหวัดยะลา
แต่รัฐบาลยังไม่ให้ความสนใจในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มของคนเปราะบางกลุ่มของชนชาวพุทธในชุมชนชาวพุทธต่าง ไม่ได้รับการคุ้มครอง รักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินอย่างจริงจัง รัฐบาลสนใจแต่ผลักดันเรื่องอินเตอร์เทนเม้นท์คอมแพล็กซ์ ไม่สนใจในการที่จะผลักดันการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
“อยากเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายการก่อการร้าย" เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะปัญหาของจังหวัดชายแดนใต้ไม่ใช่การก่อความไม่สงบ แต่เป็นปัญหาของการก่อการร้าย ซึ่งพ.ร.บ.ฉุกเฉิน และกฎอัยการศึก ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขอให้ยกเลิกไปเลย รัฐบาลนี้ไม่มียุทธศาสตร์หรือมาตรการรับมืออะไรเลย เพราะ 21 ปีไม่มียุแล้วการพูดคุยสันติสุขวันนี้ยังทำได้แค่ความคิดเห็น ยังไม่มีการเริ่มดำเนินการพูดคุยสันติสุขแต่อย่างไร
จึงขอเรียกร้องไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม สนใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้มากกว่านี้ และแก้ปัญหาโดยด่วน อย่ารอ 6-7 วัน”นายไชยยงค์ กล่าว

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่เหตุการณ์ภาคใต้จะเกิดขึ้นในช่วงที่จะมีการพิจารณางบประมาณ นายไชยยงค์ กล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่ประเด็น แต่เป็นเงื่อนไขในพื้นที่วันนี้ที่เหตุร้ายเกิดขึ้น เพราะคนที่ไม่มีอำนาจในรัฐบาลเข้ามาเป็นเป็นตัววุ่นวายในการทำหน้าที่ ไปขอให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียดำเนินการปราบปรามบีอาร์เอ็น ทำให้บีอาร์เอ็น และทำให้พรรคฝ่ายค้านของมาเลเซียไม่พอใจ ทำให้มาก่อการร้ายในพื้นที่หนักขึ้น เพื่อบีบบังคับให้เราหยุดนโยบาย ถ้าเราไม่สามารถเอาคนร้ายมายืนยันได้จะเอาคืนกับเรา นั่นคือที่มาของสามเณรที่ถูกยิงเสียชีวิต และการก่อเหตุที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นรัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจใน 2 เรื่องคือ 1.ต้องกล้าที่จะบอกว่าขบวนการบีอาร์เอ็นคือกระบวนการก่อการร้าย และ 2.ต้องกล้าที่จะออกกฏหมายการก่อการร้ายเพื่อมาใช้แทนพ.ร.บ.ฉุกเฉิน และกฎอัยการศึก
เครดิต: ข่าวไทยโพสต์
บาบอฮุสณี เตือนรัฐอย่าใช้ “พ.ร.บ.ก่อการร้าย” แก้ไฟใต้ ชี้อาจเปิดประตูสู่วิกฤตใหญ่
จากกรณีที่กลุ่มสมาชิกวุฒิสภาภาคใต้ 15 คน นำโดยนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาไฟใต้โดยเสนอให้ออก “พ.ร.บ.ก่อการร้าย” แทนการใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินและกฎอัยการศึกนั้น ล่าสุด บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ นักวิชาการศาสนาและนักเคลื่อนไหวทางสังคมชายแดนใต้ ออกมาแสดงทัศนะเตือนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อเสนอฉบับนี้

บาบอฮุสณี ระบุว่า แม้ข้อเสนอ พ.ร.บ.ก่อการร้ายอาจมีข้อดีในมุมของรัฐ เช่น การยกระดับให้ขบวนการ BRN ถูกจัดว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย ซึ่งจะตัดความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ และเป็นการเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถใช้มาตรการเด็ดขาดได้มากขึ้น แต่กลับมีข้อเสียและความเสี่ยงตามมาหลายประการ
“การออกกฎหมายฉบับนี้ สื่อชัดว่ากฎหมายพิเศษ 3 ฉบับที่ใช้มายาวนาน แก้ปัญหาไม่ได้จริง สะท้อนถึงความล้มเหลวทางนโยบายโดยตรง อีกทั้งยังอาจสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตรงข้ามประกาศพื้นที่เป็น ‘ดารุลฮัรบี’ หรือดินแดนสงครามได้อย่างเปิดเผย และที่น่ากังวลยิ่งคือ กฎหมายนี้อาจกลายเป็นบัตรเชิญให้กลุ่มมุสลิมต่างชาติเข้ามาร่วมในสมรภูมิ เพราะเชื่อว่าการที่รัฐเรียกประชาชนว่า ‘ผู้ก่อการร้าย’ เป็นหลักฐานของการอธรรม ซึ่งเป็นเงื่อนไขของญีฮาดในสายตาหลายกลุ่ม” บาบอฮุสณีกล่าว
บาบอฮุสณียังตั้งข้อสังเกตว่า หากกฎหมายนี้ถูกผลักดันโดยไม่ฟังเสียงจากประชาชนในพื้นที่ อาจเปิดโอกาสให้มหาอำนาจต่างชาติเข้ามามีบทบาทในการชี้นำและแทรกแซงสถานการณ์ชายแดนใต้
“นักรบทั้งสองฝ่ายอาจมีแผนของตนเอง แต่ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องควรได้รับการคุ้มครองจากทั้งสองฝ่าย พ.ร.บ.ก่อการร้ายไม่ได้ให้หลักประกันนั้น” บาบอฮุสณีย้ำในท้ายที่สุด
ในขณะที่เหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีท่าทีจะเบาบางลง เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุซุ่มยิง จนท.ตร.ระหว่างตั้งด่านตรวจสกัด บาดเจ็บ1นาย




เมื่อ 30 เมษายน 2568 เวลา 20:15 น.เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบฝ่ายและจำนวน ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาด ซุ่มยิง จนท.ตร.ขณะปฏิบัติภารกิจด่านตรวจ เบื้องต้น กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
ทราบชื่อ ส.ต.ท.วัชรินทร์ นพพวง โดนยิงที่แขนขวา รู้สึกตัวดี นำส่ง โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เหตุเกิดบริเวณจุดตรวจจาหนัน ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา
เช้านี้ 1 พฤษภาคม 2568 จนท.เร่งหาเบาะแสคนร้าย เหตุซุ่มยิง ตชด.จ.ยะลา บาดเจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำใหม่ จ.ยะลา ได้สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา ส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังค่ำวานนี้(30 เม.ย. 68) ได้มีคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการ มว.ฉก.ตร.ยะลา 9133 แยกเข้าบ้านจาหนัน หมู่ที่ 5 บ้านควน ตำบลพร่อน อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ในขณะที่กำลังตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ทำให้ ส.ต.ท.วัชรินทร์ นพพวง ถูกยิงกระสุนเข้าที่บริเวณข้อศอกด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา












ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอด2สัปดาห์ที่ผ่านมา
#ข่าวการเมือง #สถานการณ์ชายแดนใต้ #ภูมิธรรมย้ำยังไม่ตั้งโต๊ะ #ยันรัฐไทยรัฐเดี่ยว #สวใต้อัดรัฐบาล #เจรจาสันติสุขชายแดนใต้ #แนะออกกฎหมายปราบก่อการร้าย #ThePoligensNews