เลขาธิการ APP เตือนประชาชน ระวัง !!! 7 วันอันตราย หลังจากนี้อาจมีการก่อเหตุจากขบวนการฯตอบโต้ รมว.กลาโหม ขีดเส้น 7 วัน ให้กับ ผบ.ทบ.

นายตูแวดานียา ตูแวแมแง เลขาธิการสมาคมเพื่อสันติภาพภาคประชาชน(APP) กล่าวว่า วันนี้ต้องออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาแล้วครับ ขออนุญาตวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีล่าสุดของ รมต.กลาโหม ที่ได้ประกาศขีดเส้นให้เวลา ผบ.ทบ. 7 วัน รายงายผลการแก้ปัญหาชายแดนใต้

ผมมองว่าจะเป็นการส่งสัญญาณจากฝ่ายบริหารที่ควรต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ปัญหาโดยมีกระบวนทัศน์และนโยบายที่ชัดเจนมาจากฝ่ายบริหารเองว่าจะแก้ยังไง ไม่ใช่ไปกดดันฝ่ายทหารโดยขีดเส้นตาย 7 วัน แบบนี้ มันจะเป็นการเติมเชิ้อเพลิงเข้าไปในกองไฟ เป็นการยืนยันจากฝ่ายบริหารเองว่า ยังคงจะใช้บริการ 'การทหารนำการเมือง" ในการดับไฟใต้หรือไม่

แน่นอนว่าการส่งสัญญาณแบบนี้จากฝ่ายบริหารเอง ทางฝ่ายขบวนการต่อสู้กับรัฐ อาจจะตอบรับด้วยการเพิ่มศักยภาพการตอบโต้ด้วยกำลังอาวุธที่หนักหน่วงเพิ่มขึ้น เพื่อส่งสัญญาณกลับไปยังฝ่ายบริหารว่า การที่รัฐบาลกำลังใช้การทหารนำการเมืองเพื่อดับไฟใต้นั้น เป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง และพวกเขาฝ่ายขบวนการก็พร้อมจะยกระดับการต่อสู้ด้วยการทหารให้เป็น "สงครามประชาชนสากล" อยู่แล้ว

ภาพประกอบ เครดิต.ประชาไท

ตูแวดานียา กล่าวว่าขอใช้ช่องทางนี้นะครับ ในการส่งเสียงไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ทุกท่าน ในรอบ 7 วันหลังจากนี้ตามกรอบเวลาที่ทาง รมต.กลาโหมได้ขีดเส้นให้กับ ผบ.ทบ. นั้น

ถ้าเป็นไปได้ก็จงหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตใกล้ๆกับจุดเสี่ยงที่อาจเป็นเป้าหมายการโจมตีของฝ่ายขบวนการต่อสู้กับรัฐได้

สุดท้ายนี้ถ้ารัฐบาลสงสารประชาชนที่ต้องเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่แม้แต่กองทัพเองก็ไม่สามารถให้การปกป้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ ขอเสนอให้รัฐบาลประกาศให้กระบวนการสันติภาพเป็นวาระแห่งชาติโดยผ่านการประกาศ พรก.กระบวนการสันติภาพชายแดนใต้ โดยทันที

ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินแก้

ขอใช้ช่องทางนี้นะครับ โดยโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยมีเนื้อหาพร้อมคลิปวีดีโอ ฟังคลิป

ด้วยจิตรักสันติภาพ

นายตูแวดานียา ตูแวแมแง

เลขาธิการสมาคมเพื่อสันติภาพภาคประชาชน(APP)

วันที่ 28/4/68 ณ APP - Association for People's Peace สมาคมเพื่อสันติภาพภาคประชาชน


“ภูมิธรรม” ขีดเส้น 7 วัน ขอรายงานแผนแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ เตรียมประสานมาเลเซีย หวังคุย BRN ตัวจริงหยุดเหตุรุนแรง

วันนี้ 28 เมษายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังหารือกับฝ่ายความมั่นคง ถึงแนวทางรับมือสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยย้ำว่าได้ ขีดเส้น 7 วัน ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกฝ่ายเร่งจัดทำแผนและรายงานผลการดำเนินการเพื่อแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้มอบหมายให้ ผู้บัญชาการกองทัพบก ปรับแผน ทำงานเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งทั้ง ทหารและ ตำรวจได้ ประชุมร่วมกับหน่วยต่างๆ ในพื้นที่แล้ว ไม่มีปัญหา ใด ๆ สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ และให้รายงานความคืบหน้า และ รายละเอียดเพิ่มเติมต่าง ๆ ภายใน 7 วัน ซึ่งไม่ได้กำหนดว่า ภายใน7 วันนี้ต้องจบ แต่เพื่อให้รายงานความคืบหน้าเพื่อติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด ขณะที่ในพื้นที่ตื่นตัว ในการปฏิบัติมากขึ้น ทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ เคยลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลมาแล้ว ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่ การกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ เพื่อแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้ มีข้อมูลจำนวนมาก และไม่ตรงกัน ซึ่งจะต้องมีการคุยกันอีกครั้ง ส่วนตัวยอมรับว่าร้อนใจ

ส่วนมติ ครม. ที่สั่งการให้หาแนวทางยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้นั้น นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ครม. ยังไม่มีมติ ให้ยกเลิก แต่เป็นเพียงข้อเสนอของวภาคเอกชน ที่เห็นว่า สถานการณ์เป็นปกติแล้ว และ เพื่อให้การทำกิจการค้าขายดีขึ้น จึงมีข้อเสนอนี้ ให้ ครม. พิจารณา ซึ่ง ตนเองวได้หารือไปแล้ว แต่ล่าสุดกลับมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอีก จตึงต้องมีการทบทวนข้อเสนอใหม่อีกครั้ง จึงทำให้การหารือกันที่นัดหมายไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ แก้ปัญหาในพื้นที่ก่อน

นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยปัญหานี้กับแม่ทัพภาค4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 และ ศ.อบต. แล้วในการร่วมกัน แก้ปัญหา พร้อมยืนยันว่า การทำงานในพื้นที่ ของ ผบ.ทบ. และ ผบ.ตร. จะไม่มีช่องว่าง ไม่เรื่องรุ่น ระหว่างกัน ทั้งเป็นการทำงานร่วมกันทั้งสิ้น เพราะถือเป็นภารกิจที่จำเป็นต้องทำ ไม่มีเรื่องการข้ามรุ่น และ ตั้งที่ตนเองเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่เคยพบปัญหานี้

สำหรับการพูดคุยเพื่อคุยเพื่อสันติสุข ได้มีตั้งคณะกรรมการ หารือวางแนวทางในการพูดคุยไว้แล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า หากชัดเจนว่าสามารถควบคุมเหตุการณ์การความรุนแรงได้ก็จะมีการพูดคุย เบื้องต้นกำลังจะหารือกับผู้อำนวยความสะดวก ที่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตั้งขึ้น ตามที่ นายกรัฐมนตรีไทย และ มาเลเซีย ได้หารือกันไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งสองประเทศ จะเดินแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันอย่างเต็มที่ หากยังมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะพิจารณาอย่างเด็ดขาดว่า ทางการมาเลเซียจะให้ความช่วยเหลือไทยได้อย่างไรบ้าง

นายภูมิธรรม ย้ำว่า ไทยต้องการพูดคุยกับผู้นำตัวจริงของกลุ่ม BRN เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาไม่ได้หมายความว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ แต่พบว่า กลุ่มนี้ ไม่มีอำนาจในการหยุดยั้งสถานการณ์ โดยเฉพาะการกระทำที่รุนแรงได้ เมื่อทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะคุยอย่างไร อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เร่งประสานกับหลายฝ่าย ต้องพิจารณาว่ามีส่วนใดบ้างที่จะทำให้การพูดคุยบรรลุผล

เครดิต ภาพข่าว : Top News Online


#ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #กลาโหม #ขีด7วันรายงานสถานการณ์ชายแดนใต้ #ตูแวดานียาตูแวแมแง #เลขาธิการAPP #เตือน7วันอัตราย #สัญญาณตอบโต้ #ThePoligensNews

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *