นราธิวาส ตรวจสอบพบ จยย.พ่วงข้างบอมส์ น้ำหนักกว่า 80 กก.คำสั่งเด้ง ผกก.สภ.โคกเคียน ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ

สถานการณ์ชายแดนใต้

จากเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ สภ.โคกเคียน เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบคนร้ายขโมยรถ จยย.พ่วงข้างจากปัตตานี ซุกระเบิดน้ำหนัก 80 กก. วางระเบิดโรงพักโคกเคียน สรุปตำรวจและเด็กเจ็บ 10 คน

วันนี้ (21 เม.ย. 68) พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.วีระยุทธ์ ตาสีพัน ผกก.สภ.โคกเคียน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ที่คนร้ายได้ขี่รถ จยย.แบบพ่วงข้างแอบซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม หนัก 80 กก.จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาด้วยวงจร ไอ.ซี.ไทม์เมอร์ มาจอดไว้ที่บริเวณถนนข้างกำแพงรั้วด้านหลังของแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน ซึ่งตั้งอยู่บ้านทอนฮีเล ม.10 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ซึ่งได้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 18.49 น.ของคืนวันที่ 20 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเด็กได้รับบาดเจ็บ 10 รายนั้น

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบจุดที่คนร้ายได้จอดรถ จยย.พ่วงข้าง ที่แอบซุกซ่อนระเบิดมาก่อเหตุในครั้งนี้ ทำให้ผิวถนนลาดยางมีหลุม ลึก 40 ซม. กว้าง 200 ซม. และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง รถ จยย.พ่วงข้าง ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณเป็นรัศมีกว้าง 50 เมตร และจากอนุภาพของระเบิดในครั้งนี้ ยังส่งผลทำให้กำแพงรั้วซึ่งเป็นอิฐบล็อกถูกอานุภาพของระเบิดได้รับความเสียหาย 2 ช่วง ยาว 10 เมตร และยังส่งผลทำให้กระจกหน้าแตกและทรัพย์สินบางส่วนภายในห้องพักแฟลตที่เจ้าหน้าที่อาศัยอยู่ จำนวน 4 ชั้น โดยเฉพาะด้านหลังแฟลตถูกอานุภาพของระเบิดได้รับความเสียหายจนกระจกแตกทั้งหมดทุกห้อง

จากการตรวจสอบความเสียหายที่บริเวณใต้ถุนอาคารแฟลต ที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการจอดรถยนต์และรถ จยย. พบว่า มีรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ ถูกอานุภาพของระเบิดได้รับความเสียหายจำนวน 9 คัน มีทั้งกระจกแตก ตัวถังยุบเป็นรูโหว่ บางคันถึงกับกระโปรงหลังรถฉีก และยังมีรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหายอีก จำนวน 17 คัน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดตามตัวถังและส่วนต่าง ๆ ของรถ

นอกจากนี้อานุภาพของระเบิดยังส่งผลทำให้สะเก็ดระเบิดและชิ้นส่วนของรถ จยย.พ่วงข้าง ได้กระเด็นไปถูกบ้านเรือนของประชาชน ที่อาศัยอยู่ในละแวกด้านหลังของแฟลตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับความเสียหาย จำนวน 22 หลัง ส่วนใหญ่เป็นกระเบื้องมุงหลังคา และฝ้าเพดานบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการตรวจสอบรถ จยย.พ่วงข้างที่คนร้ายได้แอบซุกซ่อนระเบิดมาใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ พบว่า ไม่ได้มีการติดแผ่นป้ายทะเบียน แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบหมายเลขของโครงรถ ระบุว่าเป็นรถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ ที่ได้มีการแจ้งหายไว้ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่คนร้ายได้นำมาประกอบเป็นรถพ่วงข้างใช้เป็นพาหนะในการซุกซ่อนระเบิดมาก่อเหตุ

นอกจากนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ โดยคนร้ายอาศัยความมืดขี่รถ จยย.พ่วงข้างมาจากทางด้านหลังของหมู่บ้าน มาจอดที่บริเวณกำแพงรั้วของแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้วิ่งไปซ้อนท้ายรถ จยย.ของเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ทำหน้าที่มารับหลบหนีไป จากนั้นประมาณ 1 นาที ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเด็ก ๆ รวม 10 ราย ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งรถยนต์ รถ จยย. กระจกด้านหลังของแฟลตตำรวจ 4 ชั้นทุกห้องแตกเสียหาย

ด้านเด็กชายผู้ประสบเหตุและได้รับบาดเจ็บ ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ในพื้นที่หมู่บ้านด้านหลังแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการจัดงานบุญและมีเด็กจำนวนหนึ่งที่กำลังเดินทางไปเรียนอัลกุรอ่าน ได้พบเห็นคนร้ายขี่รถ จยย.พ่วงข้างมาจากทางด้านหลัง และได้มาจอดไว้ที่บริเวณกำแพงรั้ว จากนั้นคนร้ายได้พบเห็นเด็ก ๆ กำลังเดินเพื่อไปงานบุญและเรียนอัลกุรอ่าน คนร้ายได้บอกกับเด็ก ๆ ว่าให้รีบเดินหนีไปอย่าเข้าใกล้รถ จยย.พ่วงข้างที่จอดอยู่ จากนั้นผ่านไป ประมาณ 1 นาที ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตนเองที่เดินอยู่ห่างจุดเกิดเหตุ ประมาณ 50 เมตร โชคดีถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเห็นรถยนต์กระบะที่บรรทุกเด็กอีกจำนวนหนึ่งขับผ่านมาพอดี ทำให้เด็กที่นั่งกระบะหลังได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น จำนวน 10 ราย นอนรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 7 ราย และนอนรักษาที่โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ 2 ราย แต่แพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านพัก 1 ราย โดยแยกนอนรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ 7 ราย ดังนี้ คือ 1. ด.ญ.นัชมีย์ ศรีมารักษ์ อายุ 15 ปี มีแผลถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าอกขวา 2.ด.ช.มูฮัมหมัดฮาฟิซ ยะปา อายุ 11 ปี มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก 3.ส.ต.อ.อุสมาน แมแมแล อายุ 35 ปี มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก 4.ด.ญ.ชาลิสา สังข์สุวรรณ อายุ 7 ปี อาการตกใจใจสั่น 5.ด.ญ.ธัญญพร สังข์สุวรรณ อายุ 9 ปี มีอาการตกใจปวดศีรษะ 6.ด.ญ.ฮานานี ซามะ อายุ 15 ปี มีอาการแน่นหน้าอก ตกใจ และ 7. ด.ช.อัสมีน ดือเระ อายุ 14 ปี มีบาดแผลบริเวณกรามข้างขวาและบริเวณคอข้างขวา

ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ 2 ราย ประกอบด้วย 1.ด.ช.อัครวินท์ แดมะยู อายุ 14 ปี มีอาการแน่นหน้าอกมีบาดแผลบริเวณชายโครงด้านขวา และ 2.นายรุซลี บินยา อายุ 45 ปี มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก รู้สึกตัวดี

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้ในพื้นที่ จ.นราธิวาส รวมแล้วครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 คือ 1. ที่กำแพงรั้ว อส.อำเภอแว้ง 2. ที่กำแพงรั้วหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ อ.จะแนะ 3. ที่บริเวณกำแพงรั้ววัดบ้านไทย อ.ระแงะ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่กำแพงรั้ว สภ.โคกเคียน

ล่าสุดมีคำสั่ง เด้งฟ้าผ่า ผู้กำกับโคกเคียน สังเวยโจรใต้วางระเบิดรถ จยย. ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจต้องการให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งย้าย ยันผกก.ทำงาน 24 ชม.

พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้ออกหนังสือคำสั่งตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ที่ 329/2568 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2568 เวลาประมาณ 18.45 น.เกิดเหตุระเบิดบริเวณริมกำแพงถนนหลังสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน ในเขตพื้นที่โคกเคียน จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย ทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย จึงส่งผลทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เพื่อให้การปฏิบัติราชการของตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามคความในมาตรา 68 (5) 105(4) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบกับระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2566 จึงให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการและรักษาราชการแทน ดังนี้

1.พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส โดยขาดจากบังคับบัญชาตำแหน่งเดิม

2.ว่าที่ พ.ต.อ.นพดล ดิเรกวัฒนสาร ผู้กำกับการสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส อีกหน้าที่หนึ่ง

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าผู้ดำรงตำแหน่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2568 ลงชื่อ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส

แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน นายหนึ่ง เปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวนี้ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน ได้รับหนังสือดังกล่าวในช่วงเช้า แต่ท่านยังคงออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเศร้าหมองกับความรู้สึกลึกๆไว้ในใจ และไม่ได้บอกให้ใครทราบ

ต่อมาในช่วงสายได้มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดที่เกิดขึ้น ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ต่างได้ทยอยเดินทางมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการทำเรื่องเยียวยาของความช่วยเหลือเงินชดเชยจากภาครัฐ และชาวบ้านเริ่มทราบข่าวจากปากต่อปาก ว่า พ.ต.อ.วีรยุทธ หรือ ที่ชาวบ้านมักเรียกอย่างเป็นกันเองว่าผู้กำกับโต้ง ซึ่งเป็นชื่อเล่นของท่าน ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งย้ายจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด ชาวบ้าน จำนวนกว่า 100 คน จึงได้รวมตัวกันทยอยเดินทางมาให้กำลังใจ เนื่องจากที่ผ่านมามีนายตำรวจท่านนี้ที่ลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน ทั้งเรื่องความเดือดร้อนและคดีความต่างๆ จนเป็นที่รักใคร่ของทุกคน

นอกจากนี้ภรรยาของ พ.ต.อ.วีรยุทธ ผกก.สภ.โคกเคียน ยังได้เดินทางมารับชาวบ้านที่มาให้กำลังใจสามี จึงทำให้ถึงกับร้องไห้โฮออกมา ที่ซาบซึ้งในน้ำใจชาวบ้านที่รักสามีตนด้วยความจริงใจ จนชาวบ้านต้องเข้าไปปลอบโยนพร้อมกับพูดว่า ถึงอย่างไรชาวบ้านก็รักเคารพ พ.ต.อ.วีระยุทธ แม้ใครไม่เห็นคุณงามความดีแต่ชาวโคกเคียนทุกคนรู้แก่ใจ

ด้าน พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน ได้เปิดเผยพร้อมทั้งได้ถือเอกสารต่างๆที่ได้รับรางวัลเชิดชูความดีตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นการการันตีจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของภาค 9 ว่า เนื่องจากตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งของตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งให้ตนเข้าประจำที่ภูธรจังหวัดนราธิวาส สืบเนื่องจากเมื่อคืนนี้เวลา 18.45 น. มีเหตุระเบิดโดยคนร้าย 2 คน ขับรถโชเล่มาจอดที่ข้างรั้วกำแพงของ สภ.โคกเคียน และไม่ถึง 30 นาที ทำให้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งมันเป็นเหตุสุดวิสัยเกินที่เราจะป้องกัน ซึ่งสภ.โคกเคียนปฏิบัติหน้าที่ตลอด มีแผนในการป้องกัน มีการรายงานส่งผลการปฏิบัติ ทางช่อง LINE ผู้บังคับบัญชาตลอด มีแผนการปฏิบัติงาน โดยเวลา 1 ทุ่ม เราจะมีการปล่อยแถวที่หน้า สภ.มีกำลังคนประมาณ 25 นาย และเวลา 19.00 น.-22.00 น.จะมีจราจรไปตั้งด่านหน้าสภ.โคกเคียน ตั้งด่านป๊อบอัพ ถึงแยกชายหาดบ้านทอน แล้วก็มีร้อยเวร20 พร้อมกำลัง ว.4 ข้างหลังถนน สภ. โคกเคียนทุกวัน เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน เรามีการป้องกันอย่างดี ซึ่งเหตุการณ์เมื่อคืนมันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เราจะป้องกันได้

"ซึ่งตรงนี้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอชาวบ้านทอน ร่วมมือร่วมใจกันในการสร้างอาคารละหมาด สภ.โคกเคียนเนื่องจากสภ.โคกเคียนไม่มีที่ละหมาด พี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามที่มาแจ้งความหรือมาทำอะไรที่โรงพัก ก็จะต้องมีที่ละหมาด อันนี้เราไม่ได้ใช้งบของหลวงเลยซึ่งพี่น้องประชาชนชาวบ้านทอน ผู้นำชุมชนผู้นำศาสนา ช่วยกันสร้างโดยงบประมาณ 500,000 บาท การออกคำสั่งในครั้งนี้ผมถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผมทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์" พ.ต.อ.วีรยุทธ ผกก.สภ.โคกเคียน กล่าว

#ข่าวรายวัน #สถานการณ์ชายแดนใต้ #เหตุระเบิดบริเวณกำแพงแฟลตตำรวจ #คำสั่งย้ายผู้กำกับ #สถานีภูธรโคกเคียน #ThePoligensNews

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *