โดย อับดุลสาลาม ยูโซะ บก.เดอะโพลีเจอนท์นิวส์

ทางเพจมีโอกาสสัมภาษณ์ (พี่นล)กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม มีความรู้สึกอย่างไรกับการที่โดนโจมตีต่างๆโดน IO เล่นงาน ,ด้อยค่า มีผลกระทบหรือไม่ ต่อชีวิตความเป็นอยู่ และการทำหน้าที่ สส.ในสภา

ประเด็นผู้ลี้ภัยอุยกูร์ ประเด็นปาตานี ทางเพจมีโอกาสสัมภาษณ์ (พี่นล)กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม มีความรู้สึกอย่างไรกับการที่โดนโจมตีต่างๆโดน IO เล่นงาน ,ด้อยค่า มีผลกระทบหรือไม่ ต่อชีวิตความเป็นอยู่ และการทำหน้าที่ สส.ในสภา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 สส.กัณวีร์ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนให้กำลังใจครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ทั้งในพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และในพื้นที่อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ปาตานี/ชายแดนใต้ กัณวีร์ กล่าวว่า ในฐานะที่เราทำงานอาสา ผู้รับใช้พี่น้องประชาชน เราต้องยอมรับว่าจริงๆว่าเราต้องเจอเรื่องๆต่างๆเหล่านี้ แต่ถ้าถามว่า มันรู้สึกสูญเสียไหม เสียสมดุลรึเปล่า ในการที่ว่า มีคนโจมตีทำอะไรก็โดนโจมตี ไม่ทำก็โดนโจมตี ขอตอบได้เลยว่า ยิ่งทำให้เกิดพลังเกิดขึ้น เนื่องจากว่า ตั้งใจแล้ว เพราะว่าครั้งนี้เข้ามาทำงานทางด้านการเมือง เป็นนักการเมืองครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ แล้วก็จะเป็นการทำอาชีพครั้งสุดท้ายในชีวิต ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ได้ จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แค่ประเทศไทยประเทศเดียว เราเป็นหนึ่งในสมาชิกระหว่างประเทศ เราจำเป็นต้องยึดมั่นในหลักการของเรา สิ่งต่างๆที่พี่ยึดมั่นในปัจจุบัน จะเป็นเรื่องหลักการมนุษยธรรมนำการเมือง เพราะเป็นคนทำงานมนุษยธรรมมาตลอด ประมาณสัก 20 กว่าปีแล้ว คือการทำงานด้านมนุษยธรรมเราต้องยึดมั่นในหลักการของมนุษยธรรม มี 4 ข้อหลักๆคือ 1-Humanity ประชาชนเป็นศูนย์กลาง 2-Nutrality ความเป็นกลาง 3-Impartiality ความไม่เอนเอียง 4-Independence ความมีอิสรภาพในการทำงาน

หลักการมนุษยธรรมไม่สามารถบิดเบือนได้ ถ้าเราสามารถยึดมั่น หลักการ และตรรกะตรงนี้ไม่ต้องเกรงกลัว ต้องมีคนวิพากษ์วิจารณ์เราอยู่แล้ว แล้วต้องมีคนเห็นมนุษย์เป็นมนุษย์เหมือนเราด้วยเช่นกัน วันใดวันหนึ่งที่ประเทศไทยเราเปลี่ยนแปลงไป วันใดวันนึงที่ประเทศไทยเรารู้สึกว่า หลักการมนุษยธรรมนี้แหละ มันจะนำให้ประเทศไทย เราสามารถมีจุดยืนที่สง่าผ่าเผยในเวทีระหว่างประเทศได้ อันนี้แหละที่พี่รู้สึกว่าจะประสบผลสำเร็จ

สส.กัณวีร์ (พี่นล) ยังกล่าวอีกว่า ส่วนในพื้นที่ปาตานี/ชายแดนใต้ “คำว่า ปาตานี” น่าจะเป็นคนแรกที่กล้าไปพูดในสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติของทุกคน ไม่แน่ใจว่าก่อนหน้านี้ ก่อนปี66 ไม่รู้ว่าใครพูดคำว่าปาตานีหรือไม่ แต่พี่รู้สึกว่าพี่เป็นคนแรกที่กล้าพูด ยืนตัวตรงแล้วมองท่านประธานสภาฯ ว่า พื้นที่ตรงนี้ เราเรียกว่า”ปาตานี” คำวิพากษ์วิจารณ์มีเยอะแยะมากมาย มีการกล่าวหาว่า สส.คนนี้มันต้องการแบ่งแยกดินแดน อันนี้ครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่า เฮ้! มันแรงนะคำว่าเป็นแยกดินแดน ผิดหมวดหนึ่งเลยน่ะ

มาตราหนึ่ง ว่าประเทศไทยเป็นรัฐเดียวไม่สามารถแบ่งแยกดินแดนได้ พี่ก็บอกว่าพี่ไม่เคยคิดสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้ การที่เรามองเห็นว่ารากเหง้าของปัญหาในพื้นที่ตรงนี้คืออะไร เราจะสามารถบอกได้ว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไปเป็นอย่างไร พี่เชื่อมั่นว่าสิทธิการแสดงออกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ปาตานีของเรา โดนกดทับมาอย่างยาวนานไม่ใช่แค่ 21 ปี มันถูกกดทับมาเป็นเวลา 100 ปีแล้ว เพราะฉนั้นถ้าพื้นที่ในการแสดงสิทธิเสรีภาพมีการสนอง มันถูกเปิดเผยขึ้น ไม่ถูกกฎหมายพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ความมั่งคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก หรือพวก Slap Law ต่างๆนานา ที่เกิดขึ้น มันก็จะทำให้รู้สึกว่าเราเริ่มเป็นส่วนหนึ่ง ความมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนจะเกิดขึ้น

เพราะฉะนั้นก็พยายามจะผลักดันยังคงยืนหยัดในเรื่องนี้ว่า “สิทธิเสรีภาพ”ในการแสดงออกของพี่น้องประชาชน จำเป็นจะต้องได้รับการเคารพจากรัฐ เพราะฉะนั้นตรงนี้แหละ เป็นสิ่งสำคัญแล้วกระบวนการพูดคุยเจรจาสันติภาพต้องเกิดขึ้น อย่าเกรงกลัวคำว่า”สันติภาพ” ตอนนี้เห็นว่าคำว่าสันติภาพเป็นสิ่งที่น่ากลัว หลายคนบอกว่าการเรียกร้องสันติภาพ คือการดึงเวทีระหว่างประเทศเข้ามาร่วมอยู่ในพื้นที่ พี่มองว่า อย่าไปกลัว เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องใช้โอกาสตรงนี้ เป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพให้ได้ เราอย่าเปิดโอกาสให้กับคนอื่นๆในเวทีระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซงว่าประเทศไทยเราไม่มีน้ำยา ในการแก้ปัญหาของเราเอง เราสามารถสร้างการสร้างสันติภาพได้ ดึงประชาชนกับการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนมาให้ได้ ปรับเปลี่ยน ปฏิรูป โครงสร้างระบบราชการที่มันใหญ่เยอะ ไม่ว่าจะเป็น กอ.รมน. ศอ.บต.เองก็ตาม ปรับให้สามารถสู่การกระจายอำนาจ ให้กับพี่น้องประชาชน ให้เขารู้สึกว่ามีส่วนร่วมในการพัฒนานำมาสู่สันติภาพแบบยั่งยืนให้เกิดขึ้นในพื้นที่

พี่นล สส.กัณวีร์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เพราะฉะนั้นก็เลยยังไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถามว่าน้อยใจไหมไม่น้อยใจ ท้อไหม จะบอกไม่ท้อเลยก็คงไม่ได้ แต่ถ้าบอกว่าท้อจนไม่สามารถทำงานได้ ก็คงไม่ใช่ ยังยืนหยัดครับ ถ้าตราบใดก็ตาม ยังมีหน้าที่ในการทำงานในฐานะผู้รับใช้พี่น้องประชาชน จะไม่มีความท้อแท้แน่นอน จะเดินหน้าต่อไป

#สัมภาษณ์พี่นล #กัณวีร์สืบแสง #พรรคเป็นธรรม #ช่วยเหลือมนุษยธรรม #ถูกคนเห็นต่างโจมตีให้ร้าย #ยืนหยัดเดินหน้าต่อไป #สันติภาพชายแดนใต้ #ThePoligensNews